วันจันทร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2553

ศีล 8...อังคาร 13 เมษายน 2553

        
          เมื่อคืนนอนไม่หลับ ต้องพึ่งยานอนหลับไปครึ่งเม็ด ไม่ใช่ตื่นเต้นเพราะต่างถิ่น หรือกลัว ผีเผอ อะไรหรอกนะ แต่เพราะเสียงของป้าที่นอนข้างๆ เนี่ยหละ โอ๊ยยย แม่จ้าว ดังยังกะโรงสีข้าว 5555 ต้องสกิดเรียกกันตลอด ถ้าไม่กินยา คงไม่ได้นอนแน่คืนนี้ เลยต้องตัดใจกิน ทั้งๆ ทีไม่อยากกินหรอก อยากรู้ว่า ก่อนนอน เราสวดมนต์ทำวัตรเย็นขนาดนี้แล้ว จะหลับสบายไหม! (อย่างที่เค้าบอก ถ้าสวดมนต์แล้วจะทำให้หลับสบาย)  ตกลง เลยไม่รู้ เพราะเสียงกรน ชนะความอยากรู้ 5555...นอน นอน และ นอนเถอะแล้วก็ หลับ หลับ ยาวววววว มาสะดุ้งตื่นเพราะเสียงนากาปลุก ตอนตี สองสามสิบ ทำภาระกิจส่วนตัว ยังมีเวลา ก็เสียบน้ำร้อน กินกาแฟ สดชื่นจริงๆ เวลาตอนนี้ เย็นสบาย เงียบ และมีกาแฟ อิอิอิ ยังกะมาเที่ยวเลย... : )
         แล้วก็ถึงเวลาพระตีระฆัง ตอนตี 3 เสียงระฆัง ช่างไพเราะ นิ่ม กังวาลดีจริงๆ ฟังกี่ทีๆ ก็อารมณ์นี้ จากกุฏิเดินไปที่โบส์ถเก่า ประมาณ 100 เมตร น่าจะได้ ทางชัน (ไม่) นิดหน่อยหละ สำหรับคนแก่ อิอิ
         มาถึงโบส์ถเก่าก็ครบทุกๆ ชี และพระก็มาครบทุกๆ รูปแล้ว ประจำที่....เวลาทำวัตรเช้า และเย็น ก็จะต้องมี (ส่วนตัว มีก็ได้ ไม่มีก็ได้) ผ้าปูรองนั่งผืนพอประมาณสีขาว และผ้ารองกราบผืนเล็กอีกหนึ่งผืนกางลงไปตรงหน้า กราบพระพุทธ และกราบพระสงฆ์ (เสียง จิ๊งหรีด เสียงนก เสียงอะไรต่อมิอะไร เยอะแยะเลย มีแต่เสียงธรรมชาติ ดังระงมเลย ฟังแล้วเพลิน)  พระอาจารย์อ๊อด นำสวด สวด สวด ผ่านไป ชม.ได้ ก็ถึงเวลานั่งวิปัสนาฯ (ตอนนี้หละ จะว่าน่าเบื่อก็น่าเบื่อ สุดๆ) อะ!! ทำตามคำสั่ง นั่ง ๆ นึก ๆ "ยุบ-หนอ" "พ่อง-หนอ" (ของหลวงพ่อจรัญ แห่งวัดอัมพวา) ว่าในใจเรื่อยๆ ๆ ๆ เริ่มเคลิ่ม หัวเริ่มหนัก ๆ อิอิ นี่หรือเปล่าที่เรียกว่า ผงก 5555  ผ่านไปไม่ถึง 10 นาที เริ่มจะหลับ พอตอนนอนไม่อยากหลับ พอจะปฏิบัติ ทันทีเลย ง่วงงงงง สุดๆ เสียงจิ๊งหรีด เสียงนก เสียงลม เสียงใบไม้ จากที่มันร้อง มันดังก็ปกติ แต่ตอนนี้เหมือนเสียงสวรรค์กล่อมเลยที่นี่....ไม่ไหว จะทน พอ ไม่ฝืน ก็นั่งคิด คิดว่า เค้าทำยังไง มองคนอื่นเค้า เค้าจะง่วง จะเป็นแบบเราไหม ที่นั่งนิ่งๆ เงียบๆ เนี่ย!!! คิดต่างๆ นานา...จนได้ยินเสียงพระอาจารย์อ๊อด (เสียงจากสวรรค์เลย) "พอ สมควรแก่เวลา" หลังจากผ่านไปประมาณ 45 นาที น่าจะได้ แล้วก็ต่อด้วยแผ่เมตตา เป็นอันเสร็จพิธีทำวัตรเช้า พระกราบพระพุทธ เสร็จ ตามด้วยเณรและ ชี กราบพระพุทธ แล้วก็แยกย้าย ไปทำภาระกิจ 
        วันนี้เป็นวันพระ และเป็นวันสงกรานต์ พระและเณร ไม่ต้องออกบิณฑบาตร ชาวบ้านมาทำบุญกันแน่นศาลาเลยหละ.....หลังจากพิธีทางศาสนาผ่านไป ก็เป็นการสงค์น้ำพระ และรดน้ำดำหัวผู้เฒ่าแม่เฒ่า ผู้สูงอายุ (อายุปูนนี้ ครั้งแรกที่สงค์น้ำพระ 5555).....และเราก็ถือโอกาสรดน้ำขอพรจากแม่และป้า ด้วย ส่วนพ่อหาย สงสัยกลับไปที่กุฏิ  เดี่ยวค่อยรดตอนเย็น!!     
     วันนี้ไม่ได้อะไรเลย ยังยึดหลักของหลวงพ่อจรัญเหมือนเดิม ยุบหนอ-พ่องหนอ เมื่อย และง่วงมั่กมาก เดินจงกรมก็ปวดหลัง นั่งก็จะหลับ อากาศก็ร้อนโคตรๆ ขอบอก เสียงคนเล่นน้ำเปิดเพลงเต้น ที่ถนน ดังมาก ขนาดอยู่บนเนินเขายังได้ยินชัดเลย!  คงสนุกสนานกันมาก คงไม่ร้อนอย่างข้าพเจ้าเพราะตอนนี้ชุ่มไปด้วยเหงื่อ.... มีโอกาสได้คุยกับพระอาจารย์อ๊อด ท่านถามว่าเป็นไงบ้างวันนี้! ข้าพเจ้าบอกว่าไม่ไหว รู้สึกไม่มีสมาธิ เลย สับสน พอถึงจุดนิ่งๆ จะสงบก็รู้สึกง่วงสุดๆ ผงกจะให้อย่างเดียว พระอาจารย์บอกง่วงงั้นก็นอนเลย แต่ให้นอนก็นอนไม่หลับหรอก และท่านก็ถามว่าเมื่อคืนหลับไหม ก็บอกไปว่าไม่หลับ (อืมสงสัยเหตุจากเมือคืนนอนไปหลับ) ท่านเลยบอกว่าให้นอนท่าเอาแขนหนุนหัวตัวเองซิ ท่านคงคิดว่าเรานอนไม่หลับเพราะไม่มีของหนุน จริงๆ ก็ไม่มีหละนอนราบกับพื้นเลย เด๋วผิดศีลข้อ 8 (จริงๆ นอนไม่หลับก็คงเพราะเสียงกรนยังกะโรงสีข้าวของป้าตะหาก 55)

        บ่ายกว่าๆ ไม่มีที่จะอยู่หละ ร้อนจริงๆ อยากเดินจงกรมก็อยาก หาที่เดินได้คือร่มแดดข้างๆโบส์ถหลังใหม่ เดินไปสักพัก ยุบหนอ พ่องหนอ ยึดหนอ พังหนอ เริ่มมา ไม่มีสมาธิหละ  เพราะเสียงเพลงที่เปิดเล่นสงกรานต์ที่ถนน ด้านข้างห่างกันไม่ไกลแต่มีต้นไม้บัง ทำให้มองไม่เห็นกัน เดินๆ ไป เสียงเพลงก็เข้าหูเป็นระยะๆ ถ้าเราตั้งใจฟังก็จะรู้ว่าเพลงอะไร ( เหมือนไปเล่นน้ำกะคนกลุ่มนั่นไปแล้ว) แต่ถ้าเรามีสมาธิ ยุบหนอ พองหนอ จะไม่รู้ว่าเพลงไร (แต่นั่นคือความเข้าใจผิดในเรื่องของสมาธิ) ไม่ไหวจะฝืน (อีกนั่นหละ) รู้ว่าเราไม่มีสมาธิ อย่าฝืน เตรียมตัวทำวัตรเย็น.....(อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า)
         ระหว่างนั่งรอทำวัตรเย็น ยังพอมีเวลาเหลือ ก็ไปนั่งทำวิปัสสนาฯ ที่โบส์ถหลังเก่า (วันนี้ทำวัตรเย็นที่โบส์ถหลังใหม่) ก็นั่ง ยุบหนอ พองหนอ ไปเรื่อยๆ นิ่ง ๆ แต่ก็วอกแวก หลุดๆ ลอยๆ เรื่อยเปื่อย เหมือนเดิม นั่งสักพัก ก็ได้ยินเสียงของพระเบา บอกว่าจะตีระฆังนะ  พอหละ สมควรแก่เวลา นึกในใจ 55555...ก็นั่งดูพระตีระฆัง และพฤติกรรมของ หมามันส่งเสียงประสานหอนรับกัน เออ ก็เพราะดีนะ (ทำไมหมาถึงหอนเวลาได้ยินเสียงระฆัง ก็นั่งถามเอง ตอบตัวเอง...!! เพราะมันจะกลบเสียงดังที่ปวดแก้วหูจะวัตถุนั่น ด้วยฟังเสียงของมันเอง (มั่วปะไม่รู้ แต่จำได้เคยอ่านหนังสือเจอ) พอพระตีระฆังเสร็จ พระรูปนั่นก็ถามว่า เป็นไงบ้าง ได้ไหม!! ....ตอบแบบงงๆ ว่า ไม่ได้คะ รู้สึกง่วงอย่างเดียว เหมือนอะไรๆ ก็เหมือนเดิม ท่านแนะการทำสมาธิแล้วแต่วิธีที่เราถนัด เราเหมาะแบบไหน ก็ปฏิบัติแบบนั่น ถ้าง่วงก็อย่าฝืน ให้ไปทำอย่างอื่น คุยไปคุยมา ท่านเลยพูดอยู่ประโยคหนึ่งว่า  เรา"จิตลิง" แค่นั่นหละ รู้เลยพระรูปนี้น่าสนใจ ต้องมีวิธีที่จะแนะนำอะไรๆ เราได้แน่ๆ แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาแล้วหละ เพราะต้องไปทำวัตรเย็นกัน
     ประมาณ 6 โมง เริ่มทำวัตรเย็น  นั่งวิปัสสนาหลับเหมือนเดิม ไม่มีสมาธิ.....แยกย้าย พักผ่อน (เหมือนเดิม)

......  สรุปวันนี้ ไม่ได้ไรยังงง แต่ที่ได้คือ เห็นคนถือไฟฉาย พอจะส่องทางให้เราได้แว้ว......

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น